การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ (Product Positioning) คือการสร้างเอกลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์ในใจของผู้บริโภค เพื่อให้ผลิตภัณฑ์แตกต่างจากคู่แข่ง และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น
การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จ จะต้องสามารถสร้างความเชื่อมโยงระหว่างผลิตภัณฑ์กับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างชัดเจน โดยอาจพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ ประโยชน์ที่ผู้บริโภคได้รับจากผลิตภัณฑ์ ภาพลักษณ์ของแบรนด์ และกลุ่มเป้าหมาย
ตัวอย่างการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จ
แบรนด์รถยนต์ BMW วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ว่าเป็นรถยนต์ที่หรูหรา มีสมรรถนะสูง และเหมาะสำหรับผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต
แบรนด์น้ำอัดลม Coca-Cola วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ว่าเป็นเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นและความสุข เหมาะสำหรับทุกคนทุกโอกาส
แบรนด์โทรศัพท์มือถือ Apple วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ว่าเป็นโทรศัพท์มือถือที่ทันสมัย มีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า และเหมาะสำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย
ความสำคัญของการวาง Product Positioning
การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์มีความสำคัญอย่างมากต่อธุรกิจ เนื่องจากจะช่วยให้ธุรกิจสามารถบรรลุเป้าหมายทางการตลาดต่างๆ ได้ เช่น
เพิ่มยอดขาย
สร้างการรับรู้แบรนด์
เพิ่มส่วนแบ่งการตลาด
สร้างความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์คู่แข่ง
กำหนดราคาที่สูงขึ้น
วิธีการวาง Product Positioning
มีหลายวิธีในการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ ขึ้นอยู่กับประเภทของผลิตภัณฑ์ กลุ่มเป้าหมาย และเป้าหมายทางการตลาดของธุรกิจ วิธีการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่พบบ่อย ได้แก่
การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ตามคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์: เป็นการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์โดยเน้นย้ำถึงคุณลักษณะที่โดดเด่นของผลิตภัณฑ์ เช่น คุณภาพ ความคงทน การออกแบบ ฟังก์ชันการใช้งาน เป็นต้น
การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ตามประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับ: เป็นการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์โดยเน้นย้ำถึงประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากการใช้ผลิตภัณฑ์ เช่น ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย ความคุ้มค่า เป็นต้น
การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ตามราคา: เป็นการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์โดยเน้นย้ำถึงราคาที่แข่งขันได้หรือราคาที่ต่ำกว่าผลิตภัณฑ์คู่แข่ง
การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ตามภาพลักษณ์แบรนด์: เป็นการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์โดยเน้นย้ำถึงภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ เช่น ความน่าเชื่อถือ ความเป็นผู้นำในตลาด ความหรูหรา เป็นต้น
ขั้นตอนในการวาง Product Positioning
มีขั้นตอนในการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ ดังนี้
ทำความเข้าใจกับลูกค้าเป้าหมาย: คุณต้องเข้าใจความต้องการ ความคาดหวัง และพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าเป้าหมายของคุณเสียก่อน เพื่อที่คุณจะวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ได้อย่างเหมาะสม
วิเคราะห์คู่แข่ง: คุณควรวิเคราะห์คู่แข่งของคุณเพื่อดูว่าพวกเขากำลังวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของตนเองอย่างไร และคุณสามารถวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของคุณให้แตกต่างจากคู่แข่งได้อย่างไร
ระบุคุณค่าของผลิตภัณฑ์: คุณต้องระบุคุณค่าที่แท้จริงของผลิตภัณฑ์ของคุณ สิ่งที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ของคู่แข่ง และสิ่งที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณมีคุณค่าสำหรับลูกค้าเป้าหมายของคุณ
เลือกตำแหน่งผลิตภัณฑ์: เมื่อคุณระบุคุณค่าของผลิตภัณฑ์ได้แล้ว คุณก็สามารถเลือกตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมได้ โดยพิจารณาจากความต้องการของลูกค้าเป้าหมายและจุดแข็งของผลิตภัณฑ์ของคุณเอง
สื่อสารตำแหน่งผลิตภัณฑ์: เมื่อคุณเลือกตำแหน่งผลิตภัณฑ์ได้แล้ว คุณต้องสื่อสารตำแหน่งนั้นให้กับลูกค้าเป้าหมายรับรู้ผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ เช่น การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ และการขาย
แนวทางการวาง Product Positoining สำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้น
หากคุณกำลังเริ่มต้นธุรกิจและไม่ทราบว่าจะวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์อย่างไร ขอแนะนำให้พิจารณาแนวทางต่อไปนี้
วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของคุณโดยเน้นที่ความแตกต่าง: คุณต้องหาจุดแตกต่างที่สำคัญระหว่างผลิตภัณฑ์ของคุณกับผลิตภัณฑ์ของคู่แข่ง และเน้นจุดแตกต่างนั้นในการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของคุณ
วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของคุณโดยเน้นที่คุณค่าที่ลูกค้าได้รับ: คุณต้องระบุคุณค่าที่แท้จริงของผลิตภัณฑ์ของคุณ และสื่อสารคุณค่าเหล่านั้นให้กับลูกค้าเป้าหมายรับรู้
วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของคุณโดยเน้นที่ความต้องการของลูกค้าเป้าหมาย: คุณต้องเข้าใจความต้องการและคาดหวังของลูกค้าเป้าหมายของคุณเสียก่อน เพื่อที่คุณจะวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ได้อย่างเหมาะสม
การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญอย่างมากสำหรับธุรกิจทุกประเภท คุณควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนที่จะวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของคุณ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะสามารถบรรลุเป้าหมายทางการตลาดที่ตั้งไว้ได้
Comments