ผมเชื่อว่าเรามักมีไอเดียหรือมีความฝันจะทำอะไรอยู่บ่อยๆ บางคนก็บอกว่าอยากเปิดกิจการของตัวเอง บ้างก็บอกว่าอยากเริ่มทำอะไรขึ้นมาใหม่เป็นต้น แน่นอนว่ามันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนทุกคนนั้นจะเกิดไอเดียหรือมีอะไรใหม่ๆ เข้ามาได้เรื่อยๆ แต่พอเอาเข้าจริงเราก็มักจะไม่ได้ทำมันแต่อย่างใด
จากประสบการณ์การพูดคุยกับหลายๆ คน รวมทั้งกับตัวเองด้วย ผมว่าชีวิตเรานั้นมีหลายๆ เรื่องที่เข้ามาทำให้เราเสียโอกาสที่จะได้ทำอะไรใหม่ๆ พวกนี้อยู่เสมอ แน่นอนว่าถ้าเราอยากจะประสบความสำเร็จหรือได้ทำอย่างที่หวังก็คงต้องก้าวข้ามสิ่งเหล่านี้ไปให้ได้ ส่วนจะมีอะไรบ้าง และคุณกำลังประสบมันอยู่หรือเปล่า ก็มาดูลิสต์ตามด้านล่างนี้เลยครับ
1. กลัว
พอเราต้องเริ่มอะไรสักอย่างขึ้นมาใหม่นั้น สิ่งแรกๆ ที่จะเกิดควบคู่ตามมาคือความกลัวหรือกังวลว่ามันจะล้มเหลว คนอยากเปิดร้านขายของก็กลัวจะเจ๊ง คนอยากเปลี่ยนงานก็กลัวว่างานใหม่จะไม่เข้าท่า ฯลฯ ความกลัวเหล่านี้เพราะส่วนใหญ่เราไม่อยากรับความผิดหวังหรือต้องเสียใจหากเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น และนั่นทำให้โอกาสของหลายๆ คนหายไปโดยใช่เหตุ ถ้าคุณอยากจะลองทำอะไรสักอย่างนั้น การคิดให้ถ้วนถี่รอบคอบก็เป็นสิ่งดี แต่ถ้าคิดมากจนเข้าขั้นกลัวเกินไปก็คงไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไรหรอกนะครับ
2. ขี้เกียจ
ไอเดียมันเกิดขึ้นได้ง่าย เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในหัวโดยเราไม่ต้องลงแรงสักเท่าไร แต่พอจะให้ต้องทำอะไรที่ต้องลงแรงเสียเวลาแล้วมันก็อีกเรื่อง ทั้งนี้เพราะเราต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้น ต้องทอนเวลาที่เคยสบายหรือเวลาที่เคยพักผ่อนออกไปเพื่อทำสิ่งอื่น หลายๆ ครั้งเราก็จะรู้สึกว่าทำไปทำไม ความขี้เกียจและรักสบายก็จะเริ่มกลายเป็นเสียงในใจทำนองว่าอย่าเหนื่อยเลย อยู่แบบเดิมไปดีกว่า และนั่นทำให้หลายๆ คนไม่ได้เริ่มทำอะไรนั่นแหละครับ
3. ผัดวันประกันพรุ่ง
บางคนอาจจะไม่ได้ถึงขั้นขี้เกียจ แต่เพราะความเหนื่อยหรือสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวันเยอะมากจนรู้สึกว่ายังไม่ใช่เวลาที่จะเริ่มทำ ขอเลื่อนกำหนดการไปก่อน รออีกสักหน่อยเช่นรอให้มีแรง รอให้ว่างกว่านี้ ฯลฯ แล้วก็ผัดไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ไม่ได้ทำแม้ว่าเวลาจะผ่านไปแค่ไหนก็ตาม เพราะพอถึงวันที่เราว่าง มันก็จะมีอะไรใหม่เข้ามาแทรกอีกอยู่ดี ซึ่งการผัดวันประกันพรุ่งนี้เองก็น่ากลัวไม่แพ้กับความขี้เกียจเลยทีเดียว
4. ท้อ
การประสบความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นเพียงข้ามคืน หลายๆ ครั้งระหว่างทางต้องพบกับความผิดหวัง บ้างก็ต้องรอคอยโอกาสที่บางทีก็รอนานจนดูเหมือนจะไม่มีวันถึง สิ่งที่ตามมาคือความท้อ การรู้สึกว่าสิ่งที่ทำคงไม่มีวันสำเร็จ บ้างก็รู้สึกว่าการตัดสินใจที่ผ่านมาคงเป็นสิ่งที่ผิดและอยากเลิกทำเสียกันตอนนี้ จะว่าไปแล้วนั้น การท้อคงเป็นสิ่งที่ควบคู่กับการลงมือพยายามและฝึกฝน แม้แต่คนเก่งๆ เองก็จะมีจังหวะที่ต้องเผชิญกับช่วงเวลายากลำบากอยู่เหมือนกัน แต่สิ่งที่จะทำให้ก้าวข้ามไปได้คือพลังใจที่จะไม่ยอมแพ้เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นว่าความสำเร็จจะอยู่ตรงหน้าในวันหนึ่ง
ปัจจัย 4 อย่างข้างต้นนี้ เป็นสิ่งที่ผมมักพบบ่อยๆ เวลาพูดคุยกับหลายๆ คนที่เข้ามาปรึกษา บ้างก็พูดคุยในช่วงที่กำลังเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง (รวมทั้งประสบการณ์ส่วนตัวของผมเองด้วย) โดยผมเชื่อว่ามันคงเป็นสิ่งที่เราต้องเจอในวันหนึ่งตลอดชีวิตของเราเนี่ยแหละซึ่งเราก็คงต้องหาวิธีรับมือกับมันให้ได้เพื่อจะก้าวไปสู่อนาคตที่เราหวังนั่นแหละครับ (ส่วนวิธีอะไรนั้น ก็ไว้จะหามาแชร์อยู่เรื่อยๆ นะฮะ)
Comments