เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยว่า ADHD กลายเป็นสิ่งที่มีคนเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งก็อาจจะเพราะ Social Media ที่เราใช้งานในทุกวันที่ส่งผลกระทบต่อสมองของเราจนทำให้เกิดภาวะสมาธิสั้นได้มากกว่าแต่ก่อน
แน่นอนว่าเมื่อเกิด ADHD ขึ้นแล้วก็ย่อมจะส่งผลกับการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร การดำเนินการต่าง ๆ ซึ่งก็ต้องอาศัยความเข้าใจและความยืดหยุ่นในการทำงานซึ่งหัวหน้าทีมและคนที่ทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานที่มี ADHD ก็ควรจะเข้าใจเรื่องนี้เอาไว้ด้วยเหมือนกัน เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ
📍การสร้างสภาพแวดล้อมด้วยความเข้าใจ
เมื่อมีทีมงานเป็น ADHD นั้น การทำงานในสภาพแวดล้อมปรกติอาจจะไม่เอื้อต่อการทำงาน แถมอาจจะกลายเป็นอุปสรรคเอาได้ นั่นจึงทำให้หลายองค์กรสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการทำงานของคนที่เป็น ADHD เช่นการอนุญาตให้ใช้หูฟังระหว่างทำงาน การจัดพื้นที่เงียบสงบไม่ว่าจะเป็นบริเวณพิเศษ หรือตัว Work Box ที่เข้าไปนั่งทำงานคนเดียวได้เงียบ ๆ เป็นต้น
📍ปรับปรุงวิธีการสื่อสาร
เมื่อเราเข้าใจข้อจำกัดของคนที่เป็น ADHD แล้ว เราก็ควรจะปรับวิธีการสื่อสารและการจัดงานให้เป็นอุปสรรคน้อยลง เช่นการให้คำแนะนำที่ชัดเจน สั้น กระชับ การแบ่งงานใหญ่ให้เป็นการย่อย ๆ เพื่อง่ายต่อการบริหารจัดการและติดตาม เป็นต้น
📍โค้ชเสริมจุดแข็ง
การเป็น ADHD ก็สามารถมีจุดแข็งด้วยเหมือนกัน เช่นหากเขาได้ทำงานที่ตรงกับสิ่งที่เขาถนัด ทำได้ดี ก็จะมีโฟกัสและทำงานได้ประสิทธิภาพสูง คนเป็นหัวหน้าต้องรู้จักที่จะมอบหมายงานซึ่งตรงกับความสามารถของเขา เช่นเดียวกับการวางแผนโค้ชเพื่อสนับสนุนการพัฒนา และการรับมือกับอุปสรรคในการทำงาน
📍การทำให้การทำงานไม่มีสิ่งรบกวน
สิ่งที่จะช่วยได้เยอะของการทำงานกับคน ADHD คือการลดสิ่งรบกวนที่จะเกิดขึ้นในที่ทำงาน เช่นเดียวกับมีการกำหนดตารางเวลาเพื่อพักฟื้นฟูสมาธิที่เหมาะสม พยายามลดการรบกวนทางดิจิทัลเช่น Notification ต่าง ๆ เพื่อให้พนักงานสามารถรักษาสมาธิไว้ได้มากขึ้น
เมื่อหัวหน้าให้การสนับสนุนพนักงานที่มีภาวะ ADHD อย่างเหมาะสม นอกจากจะช่วยให้พนักงานประสบความสำเร็จแล้ว ยังสร้างบรรยากาศการทำงานที่ครอบคลุมและเป็นมิตร ซึ่งส่งผลดีต่อประสิทธิภาพและความสุขในที่ทำงานโดยรวม
Comments