บ่อยครั้งที่เราพบว่า คนรอบข้างเลิกที่จะเตือนหรือแย้งความคิดเห็นของเรา ซึ่งอาจทำให้เรารู้สึกแปลกใจและสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนพวกเขาเคยให้คำแนะนำเสมอ สาเหตุที่ทำให้ผู้อื่นเลิกเตือนเราอาจเกิดจาก
เราไม่เคยรับฟังคำเตือนหรือคำแนะนำ
เมื่อเราแสดงท่าทีปิดกั้น ไม่ยอมรับฟังความเห็นของผู้อื่น ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามอธิบายหรือชี้แจงเหตุผลมากแค่ไหน หากเรายังคงยืนยันความคิดของตัวเอง สุดท้ายพวกเขาก็อาจเหนื่อยล้าและเลือกที่จะไม่เตือนอีกต่อไป
เรามักโต้แย้งและไม่ลองพิจารณาความเห็นของผู้อื่น
เวลาที่มีคนเตือนหรือแนะนำ แทนที่จะลองใคร่ครวญอย่างเปิดใจ เรากลับรีบปฏิเสธ โต้แย้ง ยกเหตุผลมาหักล้าง ทำให้ผู้ที่ตั้งใจเตือนเกิดความรู้สึกท้อแท้ เพราะเหมือนพูดไปก็ไร้ประโยชน์
เราแสดงอาการหงุดหงิดหรือรำคาญเมื่อถูกเตือน
บางครั้งเราอาจแสดงสีหน้าหรือน้ำเสียงหงุดหงิด รำคาญ เมื่อมีคนเตือนหรือแนะนำในสิ่งที่ขัดใจ ทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบายใจที่จะเตือนอีก กลัวเราจะโกรธหรือเสียความรู้สึก
เราไม่เคยขอบคุณหรือชื่นชมเมื่อมีคนเตือน
การที่เราไม่เคยแสดงความขอบคุณหรือชื่นชมผู้ที่เตือนเรา ทั้งๆ ที่พวกเขาหวังดี อาจทำให้เขารู้สึกเสียความรู้สึก เหมือนเราไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่เขาพยายามทำ จึงเลือกที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวอีกต่อไป
เราชอบอ้างว่าตัวเองมีประสบการณ์มากกว่า
เราอาจใช้ประสบการณ์ของตัวเองมาเป็นข้ออ้าง เพื่อยืนยันว่าวิธีของเราถูกต้องที่สุดแล้ว ทั้งๆ ที่ความจริง ไม่มีใครผิดหรือถูกไปเสียทั้งหมด การอ้างเช่นนี้อาจทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่าเราไม่เปิดกว้าง และไม่อยากเตือนอีกต่อไป
การที่ถูกคนอื่นเลิกเตือนนั้น อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าเรากำลังปิดกั้นตัวเองจากคำแนะนำที่มีประโยชน์ การลองทบทวนท่าทีของเรา และพยายามรับฟังผู้อื่นอย่างเปิดใจมากขึ้น จะช่วยให้เรามีมุมมองที่กว้างไกล และได้รับคำชี้แนะดีๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การตัดสินใจและการแก้ปัญหาที่ดีกว่าเดิม
Comments