top of page

ทำงานให้มีประสิทธิภาพ ผ่าน Attention 3 แบบ




ในโลกของการทำงานที่เต็มไปด้วยแรงกดดันและความคาดหวังสูง หลายคนเชื่อว่าการโฟกัสกับงานตรงหน้าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด แต่ในความเป็นจริง สมองของเรามีรูปแบบของความสนใจ (Attention) ที่แตกต่างกันถึงสามแบบ และแต่ละแบบมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด การเข้าใจและรู้จักใช้งานทั้งสามรูปแบบอย่างเหมาะสมจะช่วยให้เราทำงานได้อย่างรอบด้าน ไม่ใช่แค่เร็วขึ้น แต่ยังดีขึ้นและคิดสร้างสรรค์ขึ้นด้วย


Focused Attention – การจดจ่ออย่างเต็มที่เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำ


เมื่อเราทำงานที่ต้องใช้สมาธิสูง สมองจะเข้าสู่โหมด Focused Attention ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทุกสิ่งรอบตัวถูกตัดออกไป และพลังงานทั้งหมดมุ่งไปที่งานที่อยู่ตรงหน้า เช่น เมื่อต้องเขียนรายงานเชิงวิเคราะห์ คำนวณตัวเลข หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ที่ซับซ้อน นี่เป็นช่วงเวลาที่เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะไม่มีสิ่งรบกวนเข้ามากระทบ


อย่างไรก็ตาม การอยู่ในสภาวะนี้นานเกินไปโดยไม่มีการพักอาจทำให้สมองล้าและเกิดความเครียดสะสม อีกทั้งอาจทำให้มองข้ามข้อมูลหรือแนวคิดที่อยู่นอกกรอบของความสนใจ นี่คือเหตุผลที่หลายครั้งเรารู้สึกเหมือนคิดไม่ออกเมื่อต้องทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เพราะสมองยังคงติดอยู่ในโหมดจดจ่อมากเกินไป


Sorting Attention – การวิเคราะห์และจัดลำดับความสำคัญของข้อมูล


ในบางสถานการณ์ เราไม่ได้ต้องการแค่สมาธิที่แน่วแน่ แต่ต้องการการเปรียบเทียบและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้าน สมองจึงเข้าสู่โหมด Sorting Attention ซึ่งช่วยให้เราสลับไปมาระหว่างข้อมูลต่าง ๆ เพื่อทำความเข้าใจและหาทางเลือกที่ดีที่สุด เช่น เมื่อต้องพิจารณาแผนงานสองทางเลือก หรือต้องตัดสินใจว่าควรเลือกใช้กลยุทธ์ทางธุรกิจแบบไหน


โหมดนี้มีประโยชน์อย่างมากต่อการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์และการวางแผนงานที่ซับซ้อน เพราะช่วยให้เรามองเห็นภาพรวม เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละตัวเลือก และพิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม หากตกอยู่ในโหมดนี้นานเกินไป อาจทำให้เกิดอาการลังเลหรือคิดมากจนไม่สามารถตัดสินใจได้ เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลได้พอสมควรแล้ว ควรตัดสินใจและลงมือทำเพื่อป้องกันไม่ให้กระบวนการนี้กลายเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้า


Open Attention – การเปิดกว้างสู่ความคิดสร้างสรรค์และไอเดียใหม่ๆ


ในบางช่วงของวัน สมองของเราจะเข้าสู่โหมด Open Attention ซึ่งเป็นช่วงที่ความคิดล่องลอยและไม่ได้มุ่งเน้นไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะ นี่เป็นโหมดที่ช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และการเชื่อมโยงข้อมูลที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกันเข้าด้วยกัน ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงที่เราผ่อนคลาย เช่น ขณะอาบน้ำ เดินเล่น หรืออยู่ในสภาวะที่ไม่ได้กดดันให้ต้องคิดอะไรอย่างเป็นระบบ


โหมดนี้มีความสำคัญอย่างมากต่อการคิดค้นนวัตกรรมและการแก้ปัญหาที่ยาก เพราะช่วยให้เรามองเห็นทางเลือกใหม่ที่อาจไม่เคยคิดถึงมาก่อน อย่างไรก็ตาม หากอยู่ในโหมดนี้มากเกินไปโดยไม่มีการนำความคิดไปสู่การปฏิบัติ ไอเดียดี ๆ อาจสูญเปล่าและไม่ถูกนำมาใช้จริง การมีเวลาเปิดรับความคิดใหม่ ๆ เป็นสิ่งสำคัญ แต่ต้องมีจังหวะที่เหมาะสมในการนำไปสู่การลงมือทำด้วย


บริหาร Attention อย่างสมดุล เพื่อประสิทธิภาพที่สูงสุด


แทนที่จะใช้แค่รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เราควรฝึกให้ตัวเองสามารถเปลี่ยนโหมดของความสนใจให้เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ หากต้องการสร้างไอเดียใหม่ ควรให้เวลาตัวเองอยู่ใน Open Attention แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องลงมือทำ ก็ควรเข้าสู่ Focused Attention และเมื่อต้องวิเคราะห์ทางเลือก ควรเปลี่ยนไปใช้ Sorting Attention


การเข้าใจธรรมชาติของ Attention ทั้งสามรูปแบบและรู้จักใช้งานอย่างเหมาะสม จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่รู้สึกเหนื่อยล้าหรือติดอยู่ในวงจรของการทำงานที่ไม่สมดุล ลองสังเกตตัวเองและตั้งคำถามว่า วันนี้คุณใช้ Attention แต่ละแบบอย่างเหมาะสมแล้วหรือยัง?

Kommentare


ติดตามข่าวสารและอัปเดตจาก dots.

Thanks for subscribing.

bottom of page