ความแตกต่างระหว่าง Trainer กับ Speaker ที่ควรรู้ในการฝึกอบรม

ในการจัดฝึกอบรมหรือสัมมนา เราคงเคยได้ยินคำว่า "Trainer" และ "Speaker" แต่หลายคนอาจสงสัยว่า แท้จริงแล้วบทบาทของทั้งสองมีความแตกต่างกันอย่างไร และสำคัญต่อการจัดอบรมอย่างไรบ้าง วันนี้เรามาทำความรู้จักกับบทบาทของทั้งสอง พร้อมทั้งความแตกต่างที่ควรรู้กันดีกว่า

1. บทบาทของ Trainer

• Trainer คือผู้ที่ทำหน้าที่ฝึกอบรม สอน และถ่ายทอดความรู้ ทักษะ ให้แก่ผู้เข้าอบรมอย่างเป็นระบบ

• มุ่งเน้นให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ได้จริงในการทำงานหรือชีวิตประจำวัน

• มักมีการจัดกิจกรรมให้ผู้เข้าอบรมได้ฝึกปฏิบัติด้วยตนเอง หรืออภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในกลุ่ม

• วัตถุประสงค์เน้นสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับผู้เข้าอบรม ไม่ใช่แค่การบรรยายเนื้อหา

2. บทบาทของ Speaker

• Speaker คือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในหัวข้อนั้นๆ ทำหน้าที่บรรยาย ให้ข้อมูล และแบ่งปันประสบการณ์แก่ผู้ฟัง

• จะเน้นการบรรยายเป็นหลัก อาจมีการเปิดโอกาสให้ถามคำถาม แต่มักจะไม่ลงลึกไปถึงการฝึกปฏิบัติ

• หัวข้อที่ Speaker บรรยายมักเป็นความรู้ใหม่ๆ แนวคิด หรือวิธีการที่น่าสนใจ ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ต้องนำไปใช้ทันที

• วัตถุประสงค์ส่วนใหญ่คือเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ชี้ทางแก่ผู้ฟัง ในการนำความรู้ไปปรับใช้หรือศึกษาต่อยอดด้วยตนเองภายหลัง

3. สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกระหว่าง Trainer หรือ Speaker

• หากต้องการให้ผู้เข้าอบรมได้รับความรู้และสามารถนำไปใช้ได้ทันที ควรเลือกจัดอบรมแบบ Trainer

• หากต้องการแนะนำแนวคิดใหม่ๆ สร้างแรงบันดาลใจ หรือพูดในหัวข้อที่ไม่จำเป็นต้องนำไปใช้ได้ทันที อาจเลือก Speaker ได้

• ควรพิจารณาเวลาที่มีด้วย หากเวลาน้อยอาจเหมาะสำหรับการบรรยายโดย Speaker มากกว่า ส่วนการอบรมโดย Trainer มักต้องใช้เวลามากกว่าเพื่อให้เกิดการฝึกปฏิบัติ

• ผลลัพธ์ที่ต้องการได้จากการอบรม หาก ต้องการให้ผู้เข้าอบรมมีการพัฒนาทักษะบางอย่างอย่างเป็นรูปธรรม การอบรมโดย Trainer จะเหมาะสมกว่า

สรุปแล้วทั้ง Trainer และ Speaker ต่างก็มีความสำคัญในการฝึกอบรม ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ หัวข้อ และรูปแบบการจัดกิจกรรมว่าเราต้องการอะไร ก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการนั้นๆ ซึ่งหากผสมผสานบทบาททั้งสองเข้าด้วยกันได้ก็จะยิ่งเสริมประสิทธิภาพของการอบรมให้ดียิ่งขึ้นไปอีก