top of page

ความแตกต่างระหว่าง Business Speaker กับ Business Trainer กับบทบาทการอบรมในองค์กร



ในโลกของการพัฒนาธุรกิจและการศึกษาองค์กร Business Speaker และ Business Trainer ล้วนมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความรู้และทักษะให้กับพนักงานและผู้บริหาร อย่างไรก็ตาม ทั้งสองกลุ่มนี้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในด้านเป้าหมาย วิธีการสื่อสาร และแนวทางการให้ความรู้ บทความนี้จะอธิบายถึงความแตกต่างระหว่าง Business Speaker และ Business Trainer เพื่อให้เข้าใจถึงบทบาทของแต่ละฝ่ายได้ชัดเจนขึ้น


วัตถุประสงค์และขอบเขต


Business Speaker มุ่งเน้นที่การสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นผู้ฟัง โดยนำเสนอหัวข้อในภาพรวมและแนวคิดที่เป็นแรงบันดาลใจ มักจะพูดในงานสัมมนา การประชุม หรืออีเวนต์ใหญ่ที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก ส่วน Business Trainer เน้นการพัฒนาทักษะและความรู้เฉพาะทาง ออกแบบและดำเนินโปรแกรมการฝึกอบรมอย่างเป็นระบบ และมักทำงานกับกลุ่มขนาดเล็กในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีปฏิสัมพันธ์


ระยะเวลาและความลึกของเนื้อหา


Business Speaker มักจะให้การบรรยายเพียงครั้งเดียว โดยใช้เวลาประมาณ 45-50 นาที เนื้อหามุ่งเน้นที่ภาพรวมและมุมมองกว้าง ขณะที่ Business Trainer มักมีการอบรมหลายช่วง หรือเป็นโปรแกรมต่อเนื่อง เพื่อให้ความรู้ที่เจาะลึกและลงรายละเอียดเกี่ยวกับหัวข้อที่กำหนด


เนื้อหาและวิธีการนำเสนอ


Business Speaker มักเล่าเรื่องราวประสบการณ์ส่วนตัวและความสำเร็จของตนเอง ใช้ทักษะการพูดและการนำเสนอที่ดึงดูดความสนใจของผู้ฟัง อาจใช้สื่อประกอบการพูด เช่น สไลด์ หรือวิดีโอ เพื่อช่วยเน้นย้ำสาระสำคัญ ด้าน Business Trainer พัฒนาเนื้อหาการสอนและเอกสารประกอบการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ ใช้วิธีการสอนที่หลากหลาย เช่น เวิร์กชอป กิจกรรมกลุ่ม และแบบฝึกหัด รวมถึงประเมินความก้าวหน้าของผู้เข้าร่วมและให้ข้อเสนอแนะอย่างต่อเนื่อง


การติดตามผลและการประเมินผล


Business Speaker มักไม่มีการติดตามผลหรือประเมินผลหลังจากจบการบรรยาย โดยวัดผลความสำเร็จจากการมีส่วนร่วมของผู้ฟังและความคิดเห็นทันทีหลังจบงาน ในขณะที่ Business Trainer มีการประเมินผลต่อเนื่องและติดตามพัฒนาการของผู้เรียน รวมถึงตรวจสอบว่าผู้เข้าร่วมสามารถนำความรู้ไปใช้ได้จริงในสถานการณ์การทำงาน


ความเชี่ยวชาญและพื้นฐานประสบการณ์


Business Speaker มักเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมของตน อาจเป็นนักเขียน CEO หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่มีชื่อเสียง ส่วน Business Trainer มีประสบการณ์ด้านการสอนและพัฒนาบุคลากรในองค์กร มีความรู้เกี่ยวกับหลักการเรียนรู้ของผู้ใหญ่และการออกแบบหลักสูตรอบรม


โดยสรุป Business Speaker มีหน้าที่สร้างแรงบันดาลใจและให้ภาพรวมแนวคิดกว้างๆ ในขณะที่ Business Trainer มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะเฉพาะทางผ่านกระบวนการฝึกอบรมที่เป็นระบบและมีการติดตามผล ทั้งสองบทบาทมีความสำคัญต่อการพัฒนาองค์กร โดย Business Speaker ช่วยกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และแรงจูงใจ ส่วน Business Trainer ช่วยให้บุคลากรมีทักษะที่นำไปใช้ได้จริงในการทำงาน หากองค์กรต้องการทั้งแรงบันดาลใจและทักษะการทำงานที่แข็งแกร่ง ควรเลือกใช้ทั้ง Business Speaker และ Business Trainer ให้เหมาะสมกับเป้าหมายที่ต้องการบรรลุ

Comments


ติดตามข่าวสารและอัปเดตจาก dots.

Thanks for subscribing.

bottom of page