การตั้งคำถามถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและต่อยอดความรู้ อย่างไรก็ตาม บางครั้งก็มีคำถามที่ดูเหมือนจะก่อกวนหรือไม่สร้างสรรค์ ดังนั้น เราจึงควรรู้จักแยกแยะให้ได้ว่าคำถามใดเป็นการถามเพื่อเรียนรู้ และคำถามใดเป็นการถามแบบก่อกวน
ลักษณะของการถามเพื่อเรียนรู้:
เป็นคำถามที่แสดงถึงความสนใจและใฝ่รู้อย่างแท้จริง
มีความเกี่ยวข้องและสอดคล้องกับหัวข้อที่กำลังพูดคุย
เป็นคำถามปลายเปิดที่กระตุ้นให้เกิดการคิดวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
แสดงถึงความตั้งใจที่จะรับฟังและทำความเข้าใจคำตอบ
หากเป็นการถามเพื่อท้าทายหรือโต้แย้ง ก็จะแสดงออกอย่างสุภาพและให้เกียรติผู้พูด
ลักษณะของการถามแบบก่อกวน:
เป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นสำคัญของการสนทนา
มีเจตนาที่จะขัดจังหวะ เบี่ยงเบน หรือเปลี่ยนประเด็น
เป็นคำถามปลายปิดที่มีนัยยะในเชิงลบ หรือต้องการคำตอบแค่ใช่กับไม่ใช่
แสดงท่าทีไม่เปิดใจรับฟัง ตัดสินไว้แล้ว หรือไม่สนใจคำตอบ
ใช้คำพูดที่ยั่วยุ เสียดสี หรือโจมตีเป็นการส่วนตัว
นอกจากการสังเกตลักษณะของคำถามแล้ว การแยกแยะยังต้องพิจารณาถึงบริบท น้ำเสียง และภาษากายของผู้ถามประกอบด้วย บางครั้งคำถามที่ดูเหมือนก่อกวนอาจเป็นเพียงการใช้คำพูดที่สื่อออกมาไม่ดีก็เป็นได้ ดังนั้น การสื่อสารเพื่อทำความเข้าใจอย่างใจเย็นและให้เกียรติกันจึงเป็นสิ่งจำเป็น
ในฐานะผู้ฟัง เราอาจจะกระตุ้นให้เกิดคำถามเพื่อการเรียนรู้ได้ ด้วยการรับฟังอย่างตั้งใจ แสดงความเปิดกว้าง และให้เวลาอีกฝ่ายได้คิดและพูด เมื่อมีคำถามที่ดูเหมือนจะก่อกวน เราอาจตอบด้วยการชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างเป็นกลาง และหากจำเป็นอาจต้องกลับมาโฟกัสที่ประเด็นหลักของการสนทนาอีกครั้ง
การถามคำถามเป็นศิลปะและทักษะที่ทรงพลัง หากใช้ในทางที่ถูกต้องย่อมนำไปสู่การเรียนรู้และสร้างสรรค์ ในขณะเดียวกัน การถามแบบก่อกวนก็เป็นอุปสรรคต่อการสื่อสารที่ดี ดังนั้น การรู้จักแยกแยะและปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ทั้งในฐานะผู้พูดและผู้ฟัง เมื่อเราส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการตั้งคำถามด้วยความใฝ่รู้และเคารพกัน การสนทนาก็จะกลายเป็นพื้นที่แห่งปัญญาที่ทุกคนได้ประโยชน์อย่างแท้จริง
Comments