top of page

PEST vs PESTEL: เมื่อไหร่ที่การวิเคราะห์แบบ PEST ก็เพียงพอแล้ว



ในโลกธุรกิจที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอกองค์กรเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เครื่องมือที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายคือ PEST และ PESTEL Analysis แต่คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมบางครั้งเราถึงเลือกใช้แค่ PEST? มาหาคำตอบกัน


PEST vs PESTEL: ความแตกต่างที่น่าสนใจ


PEST ย่อมาจาก Political (การเมือง), Economic (เศรษฐกิจ), Social (สังคม), และ Technological (เทคโนโลยี) ในขณะที่ PESTEL เพิ่มปัจจัยด้าน Environmental (สิ่งแวดล้อม) และ Legal (กฎหมาย) เข้าไป แล้วทำไมบางองค์กรถึงเลือกใช้แค่ PEST?


  1. PEST ครอบคลุม 4 ปัจจัยหลักที่มักเพียงพอสำหรับการวิเคราะห์เบื้องต้น การใช้ PEST ช่วยให้ทีมโฟกัสกับปัจจัยสำคัญได้ง่ายกว่า ไม่หลงทางในรายละเอียดปลีกย่อยจนเกินไป


  2. การวิเคราะห์ที่กระชับช่วยประหยัดเวลาในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล เหมาะสำหรับการตัดสินใจเร่งด่วน ในสถานการณ์ที่ต้องการความรวดเร็ว PEST อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

  3. บางธุรกิจอาจไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมหรือกฎหมาย ในกรณีนี้ PEST ก็อาจเพียงพอแล้ว การใช้ PESTEL อาจทำให้เสียเวลาโดยไม่จำเป็น

  4. ในหลายกรณี ปัจจัยด้านกฎหมายและสิ่งแวดล้อมอาจถูกรวมอยู่ในการวิเคราะห์ด้านการเมืองและสังคมอยู่แล้ว การแยกวิเคราะห์อาจไม่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่มีนัยสำคัญ

  5. PEST สามารถใช้เป็นจุดเริ่มต้นก่อนที่จะขยายไปสู่การวิเคราะห์ PESTEL ที่ละเอียดมากขึ้น เป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งก่อนที่จะเจาะลึกในรายละเอียด


การเลือกระหว่าง PEST และ PESTEL ไม่ใช่เรื่องของถูกหรือผิด แต่เป็นเรื่องของความเหมาะสมกับบริบทธุรกิจของคุณ


- หากธุรกิจของคุณอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีกฎระเบียบเข้มงวดหรือมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสูง PESTEL อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

- แต่หากคุณต้องการภาพรวมที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ PEST ก็อาจเพียงพอ


สุดท้ายนี้ จงจำไว้ว่าเครื่องมือวิเคราะห์เป็นเพียงตัวช่วย ความสำเร็จที่แท้จริงขึ้นอยู่กับวิธีการนำผลการวิเคราะห์ไปใช้ในการวางกลยุทธ์และตัดสินใจทางธุรกิจ เลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะสม และนำพาธุรกิจของคุณไปสู่ความสำเร็จ!

Comments


ติดตามข่าวสารและอัปเดตจาก dots.

Thanks for subscribing.

bottom of page