Game Theory หรือทฤษฎีเกม เป็นแขนงหนึ่งของคณิตศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ที่ศึกษาถึงการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ของผู้เล่นในสถานการณ์ที่มีปฏิสัมพันธ์กัน โดยผู้เล่นแต่ละคนจะต้องคำนึงถึงการกระทำและการตอบสนองของผู้เล่นอื่นๆ ในการตัดสินใจของตนเอง Game Theory พยายามหาจุดสมดุลหรือ "ดุลยภาพ" (Equilibrium) ที่ผู้เล่นทุกคนได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดภายใต้สถานการณ์และข้อมูลที่มีอยู่
ในบริบทของการตลาด เราสามารถมองแบรนด์หรือบริษัทเป็นผู้เล่นที่แข่งขันกันในตลาด โดยแต่ละฝ่ายพยายามใช้กลยุทธ์ต่างๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มยอดขาย ส่วนแบ่งการตลาด หรือกำไร ในขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงการตอบสนองและกลยุทธ์ของคู่แข่งด้วย
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ Game Theory ในการตลาด ได้แก่
1. กลยุทธ์ด้านราคา: สมมติว่ามีแบรนด์ A และ B ที่ขายสินค้าประเภทเดียวกัน หากแบรนด์ A ลดราคาสินค้าลง แบรนด์ B ก็จะต้องตัดสินใจว่าจะตอบสนองอย่างไร จะลดราคาตามเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาด หรือจะคงราคาเดิมและเน้นการสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับสินค้าแทน Game Theory จะช่วยให้แบรนด์วิเคราะห์และคาดการณ์ผลลัพธ์ของแต่ละทางเลือก และตัดสินใจเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมที่สุด
2. กลยุทธ์การโฆษณา: สมมติว่าแบรนด์ A และ B ต่างก็วางแผนที่จะเพิ่มงบประมาณโฆษณาเพื่อเพิ่มการรับรู้และยอดขาย แต่หากทั้งสองแบรนด์ต่างใช้งบโฆษณาสูงขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่คุ้มค่ากับการลงทุน เพราะการโฆษณาของทั้งสองฝ่ายอาจหักล้างกันเอง Game Theory จะช่วยให้แบรนด์วิเคราะห์ว่าควรใช้งบโฆษณาเท่าใดและอย่างไร เพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด โดยคำนึงถึงการโฆษณาของคู่แข่งด้วย
3. กลยุทธ์การออกผลิตภัณฑ์ใหม่: เมื่อแบรนด์ A ออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อแข่งขันกับแบรนด์ B แบรนด์ B จะต้องตัดสินใจว่าจะตอบสนองอย่างไร จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อสู้กลับ ปรับปรุงผลิตภัณฑ์เดิม หรือใช้กลยุทธ์อื่นๆ เช่น การลดราคาหรือเพิ่มการส่งเสริมการขาย Game Theory จะช่วยให้แบรนด์วิเคราะห์ทางเลือกและผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้น และเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมที่สุดในการแข่งขัน
สิ่งสำคัญคือการเข้าใจว่าในโลกของการตลาด การตัดสินใจและกลยุทธ์ของแบรนด์หนึ่งล้วนส่งผลต่อการตัดสินใจและกลยุทธ์ของแบรนด์อื่นๆ เสมอ Game Theory จึงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการวิเคราะห์และวางแผนกลยุทธ์การตลาด ทำให้แบรนด์สามารถคาดการณ์และตอบสนองต่อการกระทำของคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การแข่งขันที่ชาญฉลาดและการเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาด
Comments