ช่องว่างความคิดเห็น (Feedback Gap) คือความแตกต่างระหว่างปริมาณความคิดเห็นที่ผู้คนต้องการและปริมาณความคิดเห็นที่ได้รับจริง ซช่องว่างความคิดเห็นอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น
ผู้จัดการและครูอาจไม่เต็มใจที่จะให้ความคิดเห็น โดยเฉพาะความคิดเห็นเชิงลบ
พนักงานและอาจไม่เต็มใจที่จะขอความคิดเห็น
อาจมีอุปสรรคด้านการสื่อสารที่ทำให้การให้และรับความคิดเห็นเป็นไปอย่างยากลำบาก
ความคิดเห็นอาจให้ในลักษณะที่ไม่เป็นประโยชน์หรือสร้างสรรค์
ช่องว่างความคิดเห็นอาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการเรียนรู้และความพึงพอใจในการทำงาน เมื่อผู้คนไม่ได้รับความคิดเห็น พวกเขาอาจไม่ตระหนักถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของตน และพวกเขาอาจไม่สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของตนได้ พวกเขาอาจรู้สึกถูกประเมินค่าต่ำและไม่ได้รับค่าตอบแทน และนั่นทำให้หัวหน้าทีมและผู้บริหารจำเป็นต้องหมั่นสำรวจว่าเกิด Feedback Gap ในทีมอยู่หรือไม่ ? และจะสามารถแก้ไขปัญหาเรื่อง Feedback Gap ได้อย่างไร
การแก้ปัญหาเรื่อง Feedback Gap
เมื่อพูดถึงการแก้ปัญหาเรื่อง Feedback Gap นั้น ก็จำเป็นต้องเป็นการแก้ปัญหาไปทั้งผู้ให้ความเห็นและผู้รับความเห็น เพราะอย่างที่อธิบายไปข้างต้นว่า Feeback Gap อาจจะเกิดขึ้นจากฝั่งใดฝั่งหนึ่งหรือทั้งสองเลยก็ได้ และนั่นทำให้ต้องมีการปรับวิธีการให้ความเห็นเช่น
ผู้จัดการและครูควรได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับวิธีการให้และรับความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ
พนักงานและนักเรียนควรได้รับการสนับสนุนให้ขอความคิดเห็น
ความคิดเห็นควรให้ในเวลาที่เหมาะสมและในลักษณะที่สร้างสรรค์
ความคิดเห็นควรมุ่งเน้นไปที่พฤติกรรมและผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจงมากกว่าลักษณะบุคลิกภาพ
สิ่งที่ควรทำสำหรับผู้ให้ความคิดเห็น:
ระบุและมุ่งเน้นไปที่พฤติกรรมหรือผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจง
ให้ความคิดเห็นในเวลาที่เหมาะสมให้เร็วที่สุดหลังเหตุการณ์
สร้างสรรค์และเสนอคำแนะนำสำหรับการปรับปรุง
ให้ความเคารพและหลีกเลี่ยงการโจมตีส่วนบุคคล
สิ่งที่ควรทำสำหรับผู้รับความคิดเห็น:
เปิดกว้างรับความคิดเห็นและเต็มใจที่จะฟัง
ถามคำถามเพื่อชี้แจงเพื่อให้แน่ใจว่าเข้าใจความคิดเห็น
พิจารณาความคิดเห็นอย่างรอบคอบและคิดเกี่ยวกับวิธีที่คุณสามารถใช้เพื่อปรับปรุง
ขอบคุณคนที่ให้ความคิดเห็น
ด้วยการปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้ เราสามารถช่วยปิดช่องว่างความคิดเห็นและสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานและการเรียนรู้เชิงบวกและสร้างสรรค์ได้
Comments