เมื่อใคร ๆ ก็ทำคอนเทนต์กัน การพยายามหาความ Creative ก็เข้ามามีบทบาทมากขึ้นเพื่อใช้ในการสร้างความแตกต่างให้กับคอนเทนต์ของเรา
ว่าแต่ไอ้ความ Creative มันมีอะไรบ้างล่ะ ? เราลองยกตัวอย่างบางส่วนที่นำไปใช้ได้กัน
1. Visual Storytelling
พูดง่าย ๆ คือแทนที่จะเล่าแบบเนื้่อหาจ๋า ๆ ประเภทนั่งเล่าให้ฟัง หรือ Text ข้อมูลแน่น ๆ ก็ลองเปลี่ยนเป็น "ภาพ" ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของ Slide, Graphic, Drawing ซึ่งตรงนี้หลายคนที่มีทักษะการสร้างภาพก็จะได้เปรียบพอสมควร) ซึ่งเราก็มักจะเห็นได้จากหลายเพจที่นอกจากจะมีเนื้อหาแล้วยังใช้วิธีการเล่าเป็น Visual Note หรือ Comic
2. Sideways
เวลาเราจะทำคอนเทนต์ในหมวดหมู่อะไรนั้น มันก็จะมี "ท่ามาตรฐาน" หรือ "หัวข้อยอดนิยม" อยู่ ประเภทว่าถ้าพูดถึงเพจการตลาด เราก็จะทำคอนเทนต์ความรู้ด้านการตลาด เอาหัวข้อการตลาดมาอธิบาย ซึ่งอันนี้ใคร ๆ ก็คงจะทำอยู่แล้ว แต่การคิดให้ต่างออกไปโดยมองหามิติที่คนอื่นไม่ได้พูด หัวข้อที่หลายคนมองข้าม เช่นทำเรื่องขบขันกับความผิดพลาดเอ๋อ ๆ เวลาทำงานการตลาด หรือโฟกัสไปเรื่องใดเรื่องหนึ่งของการตลาดอย่างการวิจารณ์งาน Influencer เป็นต้น มันก็ทำให้เกิดการแตกต่าง เกิดความน่าสนใจที่ดึงกลุ่มติดตามเฉพาะมาได้
3. Collaboration
อันนี้เป็นอีกท่าที่น่าจะเห็นมากขึ้นต่อจากนี้ ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะครีเอเตอร์หลายคนอาจจะเริ่มหมดมุกในการทำคอนเทนต์ บ้างก็พบว่าการแข่งขันมันรุนแรงจนทำเองคนเดียวอาจจะไม่ง่าย การร่วมทำกับคนอื่นอาจจะสร้างสีสันได้มากขึ้น เพิ่มมิติคอนเทนต์มากขึ้น เช่นเดียวกับสร้างความแตกต่างไปจากเดิมได้
4. Interactive
โดยปรกติแล้วเรามักจะเห็นการทำคอนเทนต์อยู่ในลักษณะ One-way กล่าวคือคนดูก็ดูคอนเทนต์ไป คนทำก็ทำคอนเทนต์ออกมาเล่าให้ฟัง แต่การสร้างการมีส่วนร่วมกับคนดูก็เป็นอีกวิธีการที่ทำให้เกิดความแปลกใหม่ในประสบการณ์การดูคอนเทนต์ อีกทั้งยังถูกมองด้วยว่าเป็นการเพิ่ม Quality Engagement ให้กับการสร้างคอนเทนต์ด้วยนั่นเอง
Comments