การทำคอนเทนต์ในยุคปัจจุบัน สิ่งสำคัญที่นอกจากการออกแบบคอนเทนต์ให้ตรงโจทย์ของแบรนด์แล้ว สิ่งที่ต้องคิดไปคู่กันคือการเข้าใจพฤติกรรมของคนเสพคอนเทนต์ด้วย ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นข้อมูลที่นักการตลาดล้วนอยากได้มาประกอบการทำงานของตัวเอง
ในรายงานล่าสุดของ Adobe ว่าด้วยความคาดหวังของคนเสพคอนเทนต์นั้น มีข้อมูลน่าสนใจที่เกิดขึ้นจากการสำรวจกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา และก็มีสถิติที่น่าสนใจอยู่หลายอย่างโดยแม้ว่าอาจจะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของประเทศไทย แต่ก็เป็นเรื่องที่สามารถเอาไปคิดต่อยอดได้อยู่ไม่น้อย โดยมีเนื้อหาสำคัญตามนี้ครับ
1. คนมีอุปกรณ์และแหล่งข้อมูลในการเสพคอนเทนต์มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Millenials
อย่างที่เรารู้กันคือช่องทางการเสพคอนเทนต์ของเราในวันนี้ไม่ได้มีแค่ช่องทางเดิมๆ อย่างทีวีหรือวิทยุอีกต่อไป แต่การมีอุปกรณ์อย่างคอมพิวเตอร์ มือถือ แท๊บเลตก็เป็นการเพิ่มช่องทางการรับคอนเทนต์ที่หลากหลายมากขึ้น มีรูปแบบมากขึ้นตามไปด้วย โดยในผลสำรวจนั้นระบุว่าคนส่วนใหญ่มีอุปกรณ์ในการเสพคอนเทนต์เฉลี่ย 6 อย่างและมีแหล่งคอนเทนต์ 12 ที่ ซึ่งสถิตินี้จะสูงขึ้นไปอีก
หมายเหตุ: ช่องทางในการเสพคอนเทนต์เช่นมือถือ คอมพิวเตอร์ ทีวี ส่วนแหล่งข้อมูลเช่น Search, รายการทีวี, Social Media, Text Messaging
ความน่าสนใจจากข้อมูลนี้จะเห็นได้ว่าพฤติกรรมการรับข้อมูลของผู้บริโภคในปัจจุบันนับวันจะยิ่งหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น และเป็นโจทย์ที่นักการตลาดจะต้องปรับวิธีการสื่อสารและเลือกช่องทางใหม่นั่นเอง
2. คอมพิวเตอร์กลายเป็นช่องทางที่ใช้เยอะสุด ตามมาด้วย Smartphone
ข้อน่าสนใจไม่แพ้กันคืออุปกรณ์ที่คนใช้มากที่สุดในแต่ละวันคือคอมพิวเตอร์ เว้นแต่กลุ่ม Millenials ที่จะใช้ Smartphone มากที่สุด ซึ่งก็น่าจะสอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้งานของเด็กรุ่นใหม่ที่เราพอจะคุ้นเคยกัน
3. ในแต่ละกลุ่มอายุมีพฤติกรรมการใช้งานที่แตกต่างกัน
คนต่างอายุก็มีวิธีการเสพคอนเทนต์ที่ต่างกันไป (อันนี้เราก็คงเดาได้) โดยกลุ่มที่น่าสนใจคือ Millenials ที่มีพฤติกรรมใช้ช่องทางดิจิทัลมากกว่ากลุ่มอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่กลุ่ม Baby Boomers นั้นยังคงคุ้นเคยกับการดูโทรทัศน์เป็นหลัก อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าค่าเฉลี่ยทั้งหมดนั้นจะมีพฤติกรรมการใช้ Search อยู่ในอันดับต้นๆ
4. คนเราใช้มากกว่าหนึ่งอุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน และทำให้ถูกแย่งความสนใจได้ง่าย
88% ของผู้ถูกสำรวจระบุว่ามีการใช้งาน Multiscreen โดยมีการใช้อุปกรณ์เฉลี่ย 2.42 อย่างในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้พวกเขายังยอมรับว่าการใช้งานแบบนี้จะทำให้ถูกเบี่ยงเบนความสนใจได้ง่าย (โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม Millenials)
5. ในช่วงเวลาที่จำกัดนั้น ผู้บริโภคมีการจัดลำดับความสำคัญของคอนเทนต์
เรื่องที่น่าคิดไม่แพ้กันคือในช่วงเวลาที่จำกัดนั้น ผู้บริโภคจะเลือกดูคอนเทนต์แบบไหน ซึ่งในผลสำรวจระบุว่าพวกเขาเลือกจะกวาดดูคอนเทนต์และดูอะไรก็ตามที่กำลังถูกพูดถึงเป็นสำคัญแทนที่จะสนใจอ่านบทความใดบทความหนึ่ง ในขณะที่ถ้ามีเหตุการณ์ด่วนเข้ามานั้น พวกเขาเลือกจะดูวีดีโอมากกว่าอ่านบทความ
6. ความบันเทิงเริ่มมีบทบาทในการเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่ม Millenials
แน่นอนว่าการเสพคอนเทนต์นั้น ส่วนใหญ่เราจะคาดหวังเรื่องของข้อมูลและความถูกต้อง อย่างไรก็ตาม เราจะเห็นว่าในกลุ่ม Millenials นั้นจะเริ่มให้ความสนใจกับเรื่องราวที่เป็นแบบบันเทิงมากขึ้นซึ่งเป็น % ที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับทุกกลุ่ม
7. คนเริ่มไม่ได้มีการตรวจสอบความถูกต้องหรือเหมาะสมก่อนจะแชร์หรือโพสต์คอนเทนต์
เรื่องนี้ออกจะเป็นเรื่องน่าห่วงอยู่เสียหน่อย เพราะจากผลสำรวจในกลุ่ม Millenials พบว่าเกือบ 40% ไม่ได้มีการเช็คข้อมูลก่อนแชร์ และเกือบครึ่งไม่ได้มีการคิดเรื่องความเหมาะสมก่อนจะโพสต์คอนเทนต์ไป (และสถิตินี้สูงที่สุดในบรรดาทุกกลุ่มด้วย)
8. คนเริ่มให้ความสนใจในความถูกต้องของคอนเทนต์มากขึ้นโดยเฉพาะแหล่งข้อมูลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเอง
แม้ว่าเราอาจจะไม่ได้เช็คเรื่องความถูกต้องตอนจะแชร์หรือโพสต์ แต่ในเรื่องการเสพคอนเทนต์นั้น ผลสำรวจระบุว่าคนมีแนวโน้มจะตั้งคำถามและสงสัยถึงความถูกต้องตลอดจนความน่าเชื่อถือของคอนเทนต์เช่นรูปภาพถูกปรับแต่งมาไหม คนเขียนมีอคติหรือเปล่า ฯลฯ
9. แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือมากที่สุดคือครอบครัว เพื่อน และคนรอบข้าง
10. ข้อมูลจากคนที่อยู่ในเหตุการณ์หรือคนใช้งานทั่วไปถูกมองว่าน่าเชื่อถือกว่าสำนักข่าวหรือดารา
เราอาจจะคิดว่าคนส่วนใหญ่น่าจะเชื่อถือแหล่งข่าวอาชีพอย่างผู้ประกาศข่าวหรือแม้แต่การใช้ดาราแนะนำสินค้าต่างๆ แต่ผลสำรวจพบว่าคนให้ความเชื่อถือกับคนที่อยู่ในเหตุการณ์แล้วบอกเล่าออกมา หรือกับคนทั่วๆ ไปแล้วแชร์ประสบการณ์มากกกว่า
11. กลุ่ม Millennial เป็นกลุ่มที่มีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับคอนเทนต์ที่มาจากเพื่อนมากที่สุด
12. คอนเทนต์ที่มีการสร้างอย่างปราณีตและสวยงามจะเป็นปัจจัยที่ทำให้คนสนใจมากเสียกว่าคอนเทนต์ที่เรียบง่าย
13. การออกแบบและการแสดงผลเป็นปัจจัยสำคัญที่ให้ผู้บริโภคเลือกเสพคอนเทนต์
14. ผู้บริโภคจะเปลี่ยนช่องทางถ้าพบว่าคอนเทนต์ถูกแสดงผลได้ไม่ดีตามมาด้วยความช้าในการโหลดคอนเทนต์
Comments